การเล่นกีฬาวอลเลย์บอลในประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554
การคำนึงในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล
ผู้เล่นวอลเลย์บอลจะไม่ได้รับอันตรายจากการเล่นถ้าหากได้ตรวจอุปกรณ์การเล่น มีความรู้ทักษะการเล่น และร่างกายมีความพร้อมที่จะเล่นอย่างเพียงพอ สิ่งที่ผู้เล่นควรคำนึงในการเล่นวอลเลย์บอลด้วยความปลอดภัยโดยทั่วไปมีดังนี้
1.ก่อนจะเริ่มเล่นวอลเลย์บอลควรให้แพทย์ตรวจร่างการเสียก่อน เพราะอาจมีโรคบางอย่างที่แพทย์ตรวจพบแล้วไม่อนุญาตให้เล่นกีฬาวอลเลย์บอลก็ได้
2.ก่อนการเล่นวอลเลย์บอลทุกครั้งควรสังเกตดูพื้นที่สนามที่ใช้เล่นเสียก่อนว่าขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ มีทรายหรือสิ่งแหลมคมบนพื้นสนามหรือไม่ พื้นสนามลื่นหรือไม่ถ้าหากสภาพสนามไม่ดีย่อมอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นได้
3.เมื่อรู้สึกไม่สบายขณะเล่นควรหยุดเล่นทันที ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอลงไปชั่วคราว เช่น ภาพหลังท้องเสีย อดนอน หรือเพิ่งหายไข้ใหม่ๆ การออกกำลังกายที่เคยทำอยู่อาจจะกลายเป็นหนักเกินไป อาการที่ปรากฏต่อไปนี้เพียงอย่างเดียวหรือหลายอย่างควรหยุดเล่นทันที คือ รู้สึกเหนื่อยผิดปกติธรรมดา ใจสั่น หายใจขัดหรือหายใจไม่ทั่วท้อง เวียนศรีษะ หน้ามืด คลื่นไส้
4.อย่าเล่นวอลเลย์บอลกลางแจ้งในขณะที่ฝนตกหรือแดดร้อนจัดเพราะนอกจากจะไม่เป็นการรักษาสุขภาพและสวัสดิภาพของ ตนเองแล้วถ้าเล่นลูกบอลที่ทำด้วยหนังก็จะทำให้ลูกบอลหมดสภาพการใช้งานเร็วขึ้นด้วย
5.ก่อนการเล่นลูกทุกครั้งต้องมีการอบอุ่นร่างกายให้เพียงพอ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะเล่นต่อไป
6.เครื่องแต่งกายในการเล่นต้องเป็นชุดที่เหมาะสม เพราะเครื่องแต่งกายมีส่วนเกี่ยวข้องในด้านการเคลื่อนไหว และความอดทนในการเล่น กีฬาแต่ละอย่างมีรูปแบบเครื่องแต่งกายทั้งเสื้อ กางเกงและรองเท้า ในด้านการเคลื่อนไหว เสื้อผ้าที่รุ่มร่ามรองเท้าที่ไม่สมกับเท้าทำให้การเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวเท่าที่ควรและยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำเกิดอุบัติเหตุด้วย ในด้านความอดทนต้องคำนึงถึงการระบายความร้อนจากร่างกายเป็นสำคัญ กรณีที่สวมเสื้อผ้ามิดชิดเกินไปหรือใช้เสื้อผ้าที่ซับเหงื่อได้น้อย จะทำให้การระบายความร้อนออกจากร่างกายลำบากยิ่งขึ้น
7.ในการฝึกหรือเล่นแต่ละครั้งไม่ควรนานหรือหักโหมเกินไป เพราะสภาพร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากรู้สึกเหนื่อยควรหยุดพักสักระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยฝึกหรือเล่นใหม่
8.ไม่ควรฝึกซ้อมหรือเล่นวอลเลย์บอลหลังรับประทานอาหารใหม่ๆเนื่องจากสภาพของกระเพาะอาหารในเวลาอิ่มจัดกระเพาะ อาหารซึ่งอยู่ใต้กระบังลมจะเป็นตัวทำให้การขยายของปอดเป็นไปไม่ดีเท่าที่ควร เพราะกระบังลมไม่อาจหดตัวต่ำลงได้มาก ขณะเดียวกันการไหลเวียนของเลือดส่วนหนึ่งต้องถูกแบ่งไปใช้ในการย่อยอาหารและดูดซึมอาหารทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ ลดน้อยลง นอกจากนี้ถ้ากระเพาะอาหารที่มีอาหารอยู่ได้รับความกระทบกระเทือน จะแตกได้ง่ายว่ากระเพาะอาหารที่ว่าง จึงควรงดอาหารหนักก่อนฝึกซ้อมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
9.ด้านจิตใจ ในระหว่างการเล่นหรือการฝึกซ้อมต้องทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ขจัดเรื่องที่รบกวนจิตใจในระหว่างนั้นออกไป หากขจัดไม่ได้จริงๆก็ไม่ควรฝึกซ้อมเพราะจะทำให้เสียสมาธิและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬานั้นช่วยลดความเครียดอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่ควรเครียด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น